
NURTURE ONE RESEARCHER AT A TIME.
กำหนดปัญหาอย่างไร ให้ตอบได้ตรงใจที่สุด
เมื่อการกำหนดปัญหาของงานวิจัย ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

การกำหนดปัญหางานวิจัย คืออะไร
การกำหนดปัญหางานวิจัย คือ การพิจารณาถึงปัญหาหรือหัวข้อที่เราสนใจต้องการจะศึกษา ว่าหัวข้อนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ต้องการทดสอบหรือหาคำตอบเรื่องอะไร เพื่อเป็นการระบุชื่อเรื่องงานวิจัยให้ชัดเจน และเข้าใจตรงกันว่าจะศึกษาเรื่องใด ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญที่สุดในกระบวนการวิจัย เพราะผู้วิจัยต้องกำหนดปัญหาของงานวิจัย ให้สามารถได้มาซึ่งคำตอบของสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการศึกษาค้นคว้า ซึ่งการกำหนดปัญหาของงานวิจัยควรมีการศึกษาสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
-
ศึกษาลักษณะและความเป็นมา ผู้วิจัยจะต้องศึกษาเนื้อหาลักษณะของความเป็นมาของเรื่องที่เป็นปัญหาในการวิจัย
-
ศึกษาโครงสร้างขององค์การที่กําหนดเป็นเรื่องการทําวิจัย บางครั้งจําเป็นต้อง ศึกษาโครงสร้างขององค์การที่ใช้กําหนดเป็นหัวเรื่องของการวิจัย ตัวอยาง เช่น การดําเนินงาน การบริหาร การเงิน เป็นต้น
-
ศึกษาเอกสารและกิจกรรมที่ เกี่ยวของกับหัวเรื่องที่วิจัย ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่า หัวข้อวิจัยนั้นเป็นปัญหาที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้กอ่นหน้านี้รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่มีอยู่
-
ศึกษาและปรึกษากับผูที่มีความรูโดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้มีประสบการณในเรื่องที่จะศึกษาวิจัย
-
ศึกษากรอบและทฤษฎี ซึ่งจะทําใหผู้วิจัยสามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่างหัวเรื่อง ปัญหา ข้อมูล ลักษณะของปัญหา
โดยทั่วไปแล้วปัญหาของการวิจัยควรมีคุณสมบัติ ดังนี้
-
จะต้องเป็นปัญหาที่ชัดเจนไม่คลุมเครือ ไม่กำกวม เข้าใจง่าย สามารถอ่านแล้วเข้าใจตรงกัน
-
ปัญหาที่กำหนดต้องไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป
-
ควรเป็นปัญหาที่มีความหมาย ง่ายต่อการศึกษาวิจัย
-
จะต้องเหมาะสมกับเวลา ค่าใช้จ่าย และความรู้ความสามารถของผู้วิจัย
เกณฑ์การประเมินปัญหาการวิจัย
การเลือกปัญหาการวิจัยจะเหมาะสมหรือไม่ ควรที่นักวิจัยจะได้ประเมินหัวข้อปัญหาการวิจัยนั้นโดยอาศัยเกณฑ์ต่อไปนี้พิจารณา
1.ควรเป็นปัญหาที่ผู้วิจัยสนใจซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
1.1 มีความอยากรู้ อยากเห็นอยากทราบคำตอบโดยไม่มีอคติ
1.2 เป็นความสนใจที่เกิดจากแรงจูงใจภายนอกมากระตุ้น
1.3 เป็นปัญหาที่แสดงความคิดริเริ่มของผู้วิจัยเอง
2.ควรเป็นปัญหาที่มีคุณค่า ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
2.1 ก่อให้เกิดความรู้ ความจริงใหม่ๆ ไม่ซ้ำซ้อนกับผู้อื่น
2.2. ก่อใหเกิดสติปัญญาและพัฒนาความคิด
2.3 นำไปแก้ไขปรับปรุงงานที่ทำอยู่ได้
3.ควรคานึงถึงความสามารถของผู้วิจัยในประเด็นต่อไปนี้
3.1 มีความรู้ ความสามารถพอที่จะทำงานวิจัยเรื่องนั้น
3.2 มีเวลา กำลังงาน และกำลังทรัพย์พอที่จะทำได้สำเร็จ
3.3 สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างเที่ยงตรงและมีประสิทธิภาพ
4.ควรคำนึงถึงสิ่งที่จะเอื้ออำนวยให้การวิจัยสำเร็จได้แก่
4.1 มีแหล่งวิชาการที่จะค้นคว้าได้สะดวกและเพียงพอ
4.2 มีอุปกรณ์เครื่องมือ และเครื่องช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล
4.3 ได้รับความสนับสนุนและร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องด้วยดี
อ้างอิง